มีเรื่องราวมากมายที่จิตวิญญาณภายในของฉันต้องการจะบอกกับคุณจากก้อนความรู้ขนาดใหญ่ของจักรวาล แต่ด้วยเงื่อนไขด้านพื้นที่และเวลา(วิธีและโอกาสในการสื่อสาร) จึงทำให้ฉันไม่อาจจะนำมาเล่าได้ทั้งหมด นี่คงจะเป็นความพยายามเท่าที่จำเป็นภายใต้ข้อจำกัดนี้ ซึ่งฉันรู้ดีว่า ณ เวลานี้ฉันมีหน้าที่ถ่ายทอดและทำในสิ่งที่“เขา”ต้องการเท่านั้น กายภาพของฉันปัจจุบันชื่อ ธาตรี โภควนิช หากคุณเข้าใจหลักการการทำงานของจิตวิญญาณ คุณจะทราบว่าเราทุกคนล้วนมีจิตวิญญาณที่มีอัตลักษณ์ดั่งเดิมที่เร้นอยู่ภายในกันทุกคน และตัวจิตวิญญาณภายในนี่เองที่เป็นสะพานเชื่อมกับแหล่งข้อมูลหรือต้นกำเนิดความรู้ทั้งมวลในจักรวาล ซึ่งจิตวิญญาณภายในของฉันมีลักษณะ“เป็น” อารียา เมตายา โดยเขามีภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาให้ทำสองอย่างดังนี้
…
1.เปิดเผยแหล่งที่มาและหลักการการเข้าถึงความรู้ที่เป็นอนันต์ผ่านจิตวิญญาณภายในด้วยอัตลักษณ์ที่เฉพาะตัวของแต่ละคน หรืออธิบายง่ายๆ คือเขาต้องการให้คุณรู้ “วิธีการเข้าถึงความรู้” มากกว่าการมาบอก“ความรู้” โดยปรกติกระบวนการการเรียนรู้ของมนุษย์มีอยู่สองวิธีด้วยกัน วิธีแรกคือ “การรู้จากภายนอก” โดยอาศัยช่องทางการรับรู้ที่เรามีอยู่เช่น การได้ฟัง ได้เห็น ได้ดม ได้ชิม ได้สัมผัส รวมถึงการประมวล,ประเมิน,วิเคราะห์ ข้อมูลที่ได้นั้นด้วยหลักเหตุผลเพื่อที่จะได้ชุดความรู้ขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง ซึ่งเราเรียกรวมกระบวนการนี้ว่าการรู้จากภายนอก ส่วนวิธีที่สองคือ “การรู้จากภายใน” ในอดีตมีบุคคลสำคัญๆมากมายใช้วิธีการนี้เพื่อเข้าถึงความรู้ใหม่ๆที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์โลกเช่น นักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์ นักศิลปะ นักกวี นักปรัชญา ฯลฯ โดยพวกเขาก็จะนิยามกระบวนการนี้ตามความเข้าใจ ณ เวลานั้นเช่น เรียกว่าแรงบันดาลใจบ้าง, สัญชาตญาณบ้าง, ความคิดแว้ปบ้าง (Ureka Moment), ความคิดผุด (Intuition) หรือปัญญาญาณ(Wisdom) บ้าง ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดเรียกรวมกระบวนการนี้ว่าการรู้จากภายใน และนี่คือภารกิจในส่วนแรกที่เขาต้องการสื่อสารให้คนทั้งโลกได้รู้ว่าเราทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ทุกคนสามารถใช้หลักการนี้ทำให้เกิดศักยภาพของตนเองอย่างสูงสุดได้ เพียงแต่ต้องรู้ว่าที่มาของการรู้แบบนี้มาจากไหนและมีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้สามารถเข้าถึงมันได้…
…
2. เปิดเผยแผนการฟื้นฟูกายภาพของโลกให้พร้อมสำหรับการเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่ หรือที่เรียกว่า ยุคทอง, ยุคศิวิไลซ์, ยุคเมซิอาห์, ยุคพระศรีอารย์ ฯลฯ อย่างที่รู้กันดีว่าในปัจจุบันโลกของเรากำลังมีปัญหาที่อยู่ในขั้นวิกฤตกันแล้วเช่น ปัญหาโลกร้อน, ปัญหาความวิปริตแปรปรวนของดินฟ้าอากาศ, ปัญหามลภาวะและสิ่งแวดล้อม, ปัญหาโรคระบาดที่ทำให้ทั้งคนและสัตว์ล้มตายกันคราวละมากๆ, ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ, ปัญหาการโหยหาความสุขจากภายนอกจนเกิดการบริโภคเกินความจำเป็นและสิ่งเสพติดมอมเมา, ปัญหาศีลธรรมจิตสำนึกตกต่ำ ฯลฯ ซึ่งมีการคาดการณ์ไว้ว่าเมื่อปัญหาทุกอย่างถึงจุดสูงสุด เปรียบเสมือนการค่อยๆงอกิ่งไม้จนถึงจุดที่งอต่อไปไม่ได้อีกแล้วมันก็จะหัก ซึ่งแน่นอนเมื่อถึงเวลานั้นสภาพทางกายภาพของโลกจะเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงครั้งใหญ่เพื่อปรับให้เกิดความสมดุลย์อีกครั้ง และช่วงเวลาแห่งการแตกหักนี้ก็ใกล้เข้ามาเต็มที(หลายคนคงได้รับสัญญาณเหล่านี้มาบ้าง) และนี่คือที่มาของแผนการที่ได้มีการตระเตรียมมาอย่างดีสำหรับช่วงเวลานี้ …
…

มีคำถามสำคัญอยู่ว่า เราที่กำหนดตัวเองให้มาเกิดอยู่ในช่วงเวลานี้(ไม่มีความบังเอิญ) ได้มีโอกาสเจอกันและปฏิสัมพันธ์ หรือได้มาอ่านเจอข้อความนี้ จะต้องทำอย่างไร เราจะมีอำนาจหรือศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้มากแค่ไหน คำตอบเบื้องต้นอยู่ในหัวข้อที่หนึ่ง หากคุณสามารถเข้าถึงการรู้จากภายใน มันจะเป็น “การรู้” ที่ยิ่งกว่าการรู้ทั้งปวง คุณจะรู้จักอัตลักษณ์ของคุณ คุณจะรู้บทบาทที่แท้จริงของคุณ มันจะไม่เหมือนการรู้ใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เกี่ยวกับกระแสของจักรวาล ณ ปัจจุบัน (จากต้นกำเนิดหรือพระเจ้า) ว่าเขาต้องการอะไร การที่คุณปลีกตัวเองออกจากความวุ่นวาย อยู่ในสถานที่สงบ ไม่คิด ไม่ไขว่ขว้า ทำจิตให้ว่าง ทำตัวให้ว่าง (ว่างเปล่า) มันเพียงพอหรือสมกับการเป็นมนุษย์ที่สามารถเข้าถึงความรู้ของจักรวาลแล้วหรือยัง มันสมกับการได้ชื่อว่าเป็นบุตรที่อาสามาทำหน้าที่บนโลกแล้วหรือยัง แน่นอนคุณจะรู้ดีเมื่อคุณค้นพบมันแล้ว เพราะคุณคือคนที่เลือกมาแล้วว่าจะ“เป็น”
…
คำตอบเบื้องกลางคือคนที่ “รู้” แล้วว่าตนเองคือใครต้องทำอะไร จะรู้ว่าต้นต่อของทุกปัญหาล้วนมาจาก “ความกลัว” เช่น กลัวไม่พอ กลัวไม่มี กลัวถูกเอาเปรียบ กลัวถูกแย่งชิง ฯลฯ ซึ่งเมื่อมันผ่านกาลเวลา, ผ่านกระบวนการคิดที่สลับซับซ้อนจากสังคมจึงเกิดการทำลายโลกอย่างเช่นในปัจจุบัน บัดนี้ได้มีกระแสความคิดเรื่องการแก้สมการของโลกใหม่โดยเปลี่ยนจาก “ความกลัวหรือความโลภ” ให้มาเป็นกลไกการขับเคลื่อนด้วย “ความรัก” หรือด้วยการให้, การแบ่งปัน หรือความเมตตา ฯลฯ ขณะนี้ได้มีคนจำนวนมากเริ่มต้นทำบางสิ่งบางอย่างกันแล้ว เพราะการปรับเปลี่ยนหรือฟื้นฟู (Renew) นี้ไม่ใช่มาจากใครคนใดคนหนึ่ง ช่วงเวลานี้จึงมีความสำคัญระดับจักรวาล เพียงแต่ต้องการการเชื่อมโยงและทำให้กระแสนี้มีพลังมากกว่านี้ กระแสแห่งยุคสมัยนี้มีนิยามว่า “การสร้างอารยธรรมแห่งความเมตตา” หรือที่เราเรียกกันย่อ ๆ ว่า “อารียา เมตายา”
…
ต่อไปนี้ขอให้เข้าใจตรงกันว่า อารียา เมตายา ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่หนังสือนิยาย ไม่ใช่บริษัทที่ดำเนินกิจการเพื่อสังคม แต่ใครก็ตามที่กำลังทำเรื่องเหล่านี้ ใครก็ตามที่กำลังแสดงปรากฏการณ์แห่งการฟื้นฟูโลก ใครก็ตามที่สัมผัสกับกระแสแห่งจักรวาลนี้แล้วลงมือทำบางสิ่งบางอย่างอย่างเป็นรูปธรรม เขาคนนั้นจะได้ชื่อว่าเป็น “อารียา เมตายา”
…
และพวกเรากำลังรอคุณอยู่ที่นี่
https://www.areeyametaya.com/donate/donate-skills/
…
อารียา เมตายา
24.09.2020

ชื่อภาพ: “สู่การเป็น อารียา เมตายา”
ศิลปิน: ธาตรี โภควนิช (ผู้เขียน อารียา เมตายา)
เทคนิค: ภาพวาดลายเส้นพิมพ์บนกระดาษ
ขนาด: 53.5 x 89.5 ซม.
จำนวนจำกัด: 1,250 Edition
ราคา: 5,000 บาท
…
รายได้ทั้งหมดมอบให้โครงการฯต่างๆของ อารียา เมตายา เช่น
- โครงการชุมชนต้นแบบ อารียา เมตายา อุดรฯ, ปากช่อง
- โครงการพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อการแบ่งปันและทำความดี Wholay
- โครงการพัฒนาแพล็ตฟอร์มเกษตรไบโอ MetaBio
- โครงการพัฒนาแพล็ตฟอร์ม CoShare
- โครงการผลิตสื่อการ์ตูน อารียา เมตายา
- โครงการแปลหนังสือ อารียา เมตายา เป็นภาษาต่าง ๆ
…

บัญชีเพื่อค่าสินค้าและบริการ
ธนาคารกสิกรไทย
เลขที่บัญชี 070-1-80243-8
ชื่อบัญชี บจก.อารียา เมตายา (วิสาหกิจเพื่อสังคม)
เมื่อโอนเงินแล้วกรุณาแนบสลิปการโอน พร้อมกรอกชื่อที่อยู่สำหรับจัดส่งมาตามแบบฟอร์มด้านล่างนี้
*** สำหรับท่านที่ต้องการใบเสร็จสำหรับนำไปลดหย่อนภาษีกรุณาแนบบัตรประชาชนของท่านด้วย
…
หากท่านต้องการระบุหมายเลข Edition ของภาพ สามารถตรวจสอบได้ตามลิ้งค์นี้ก่อนค่ะ