ฉันมาเพื่อบอกกับเธอว่า ภารกรรมนั้นมีอยู่จริง,มีสาเหตุจากอะไรและเราสามารถทำให้มันหายไปได้อย่างไร ที่เหลือเธอต้องลงมือทำด้วยตัวเอง ผิดถูกเธอต้องเรียนรู้และรับผิดชอบด้วยตัวเอง เมื่อเธอชำนาญแล้ว นั่นคือทักษะที่แท้จริงของเธอเอง
…
ฉันมาเพื่อบอกกับเธอว่า หากเธอสามารถเป็นความรักและความเมตตาแบบบริสุทธิ์ใจได้ เธอจะสามารถเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล และเธอก็จะสามารถเข้าถึงต้นกำเนิดความรู้ที่เป็นสากล ที่เหลือเธอต้องทำให้ความรักนั้นปรากฏกับตัวเอง ผิดถูกเธอต้องเรียนรู้และรับผิดชอบด้วยตัวเอง เมื่อเธอทำได้แล้วนั่นคือศักยภาพที่แท้จริงของเธอเอง
…
ฉันมาเพื่อบอกกับเธอว่า โลกยุคศิวิไลซ์นั้นจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ โดยเราสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ด้วยเจตจำนงค์แห่งความรักและความเมตตา แต่มันจะเกิดขึ้นได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับจำนวนของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นความรักและความเมตตาแบบบริสุทธิ์ใจ
…
ฉันมาเพื่อบอกกับเธอว่า ไม่มีใครยิ่งใหญ่และสูงส่งมากไปกว่าตัวเธอ จงอย่าศรัทธาใครนอกจากตัวเธอเอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดอยู่ในตัวเธอ ฉันมาเพื่อชวนให้เธอค้นหาสิ่งนี้ หากฉันทำตัวสูงส่งเสียเอง ทำตัวให้เธอศรัทธาฉันเสียเอง ทำตัวให้เธอต้องพึ่งพาฉันเสียเอง แสดงว่าฉันเป็นคนหลอกลวงพูดจาสับปรับ
…
ฉันมาเพื่อบอกกับเธอว่า เราทุกคนคือพี่ๆ น้องๆ ที่มีบุพการีคนเดียวกัน เราคือสายสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณเดียวกัน หากฉันพูดสิ่งใดที่ทำให้เธอเกิดความรู้สึกแบ่งแยก ทำให้เธอรู้สึกด้อยกว่าฉัน แสดงว่าฉันกำลังโกหก เธอจงอย่าเชื่อฉัน
…
ถ้าเมื่อไหร่ที่เธอมีทักษะเหล่านี้ได้แล้ว เธอสามารถมีอิสระทางจิตวิญญาณแล้ว เธอสามารถมีสายตาที่เห็นความจริงโดยไม่ตัดสินแล้ว เธอสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ที่เป็นสากลแล้ว สามารถศรัทธาตัวเอง สามารถสัมผัสกับสิ่งศักดิ์ในตัวเองแล้ว เธอจงบอกความลับนี้กับพี่ๆ น้องของเธอต่อไป หากเธอไม่บอกแต่กลับใช้สิ่งนี้มาทำให้เธอกลายผู้ที่สูงส่งกว่าคนอื่น มาทำให้ผู้อื่นมาศรัทธาตัวเธอ เธอจะกลายเป็นคนทรยศ
…
พี่น้องที่รักทั้งหลาย ไม่ว่าความเป็นฉันในสายตาของเธอจะเป็นเช่นไร ดูต้อยต่ำ ดูไม่น่าเชื่อถือ ดูธรรมดา ดูไม่ศักดิ์สิทธิ์ หรือแม้กระทั้งดูเป็นคนไม่ดี เธอจงรู้ไว้เถอะว่านั่นคือสิ่งที่เกิดจากความคิดของเธอ “ฉันจะเป็นอย่างที่ฉันเป็น” และฉันก็มาเพียงเพื่อจะบอกกับเธอว่า “เธอจงเป็นอย่างที่เธอเป็น” เถิด
…
อารียา เมตายา
14/03/64